ข้อมูลเผยแพร่
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จับมือภาคีเครือข่าย สร้างโรงพยาบาลเครือข่ายจัดเก็บ DNA แห่งที่ 22
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 แพทย์หญิงปรียาพรรณ เพชรปราณี หัวหน้ากลุ่มนิติเวชคลินิก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มนิติเวชคลินิก ร่วมกับภาคีเครือข่ายภายใต้บันทึกความร่วมมือ “การดำเนินงานพัฒนาการเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพของคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน” ในครั้งนี้มีผู้แทนจาก กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการเข้าถึงบริการระบบประกันสุขภาพและการเก็บสิ่งส่งตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ของคนไทยที่มีปัญหาสิทธิสถานะ ณ ห้องประชุมเตชะธัมโม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานการประชุมพร้อมด้วยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, ปกครองจังหวัดชัยภูมิ, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ, โรงพยาบาลชัยภูมิ, ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเข้าร่วมการประชุม
และในวันที่ 10 กันยายน 2567 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในนามคณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน พร้อมด้วย ผศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสิสุข รองเลขาธิการ สปสช. นางสาวกานต์จรัส เอียดทองใส ปลัดจังหวัดชัยภูมิ ร่วมการประชุมเพื่อสร้างความร่วมมือและวางระบบการจัดเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจเพื่อแก้ไขปัญหาคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ณ โรงพยาบาลชัยภูมิ โดยมี ผศ.(พิเศษ)นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยภูมิ ให้การต้อนรับ และมีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยภูมิ, องค์การบริหารส่วนจังหวัด, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ร่วมกันให้ความเห็นชอบในการผนึกกำลังสร้างเครือข่ายจัดเก็บสารพันธุกรรมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แห่งที่ 22 ณ โรงพยาบาลชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ และได้ดำเนินการจัดเก็บสารพันธุกรรมบุคคล ภายใต้โครงการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมแก่ราษฎรไร้สถานะและประสบปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร จำนวน 4 ครอบครัว รวม 14 ราย ประกอบด้วยผู้ประสบปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร 10 ราย บุคคลอ้างอิง 4 ราย เพื่อนำผลการตรวจไปประกอบการแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎรต่อไป